นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เป็นประธานแถลงข่าวเปิดโครงการ “พาณิชย์ลดราคาปุ๋ยเพื่อเกษตรกร ปี 2568” เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 โดยมีคณะผู้บริหารระดับสูงร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง ประกอบด้วยนายพงศกร อรรณนพพร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ นายวรวงศ์ รามางกูร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ นายคุณากร ปรีชาชนะชัย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ท่านอื่นๆ
โครงการนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน กับพันธมิตรสำคัญ 3 สมาคมใหญ่ของวงการปุ๋ย ได้แก่ สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย และสมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร รวมถึงความร่วมมือจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนอย่างเต็มรูปแบบเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรไทยในยามที่เศรษฐกิจเกษตรกำลังประสบปัญหา
รายละเอียดโครงการ
ในการแถลงข่าว นายพิชัย เปิดเผยว่า โครงการนี้จะนำปุ๋ยคุณภาพดีมาจำหน่ายในราคาพิเศษ ลดราคาสูงสุดกระสอบละ 50 บาท โดยครอบคลุมปุ๋ยสำหรับการเพาะปลูกพืชทุกชนิด รวมกว่า 79 สูตร จากผู้ประกอบการ 26 รายทั่วประเทศ ซึ่งรวมปริมาณปุ๋ยทั้งสิ้นกว่า 10.06 ล้านกระสอบ นับเป็นโครงการที่มีขนาดใหญ่และครอบคลุมความต้องการของเกษตรกรอย่างทั่วถึง โครงการนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม ไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2568 ซึ่งครอบคลุมช่วงฤดูกาลเพาะปลูกสำคัญของเกษตรกรไทย
นายพิชัยกล่าวย้ำถึงความเข้าใจในสถานการณ์ของเกษตรกรไทยว่า “ความทุกข์ของชาวนาคือความทุกข์ของแผ่นดิน ความทุกข์ของเกษตรกรคือความทุกข์ของแผ่นดินเช่นเดียวกัน เราเข้าใจดีในภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน ราคาสินค้าเกษตรในประเทศเราพอควบคุมได้ แต่ราคาที่กำหนดจากต่างประเทศควบคุมยาก” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ยังกล่าวถึงสถานการณ์ราคาข้าวที่ตกต่ำในปัจจุบันว่าเป็นผลมาจากอินเดียขายข้าวขาวในราคาต่ำมาก เพียง 300 กว่าเหรียญสหรัฐต่อตัน หรือประมาณ 10,000 บาทต่อตัน ซึ่งส่งผลกระทบให้ราคาข้าวขาวในตลาดโลกตกต่ำตามไปด้วย
มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรแบบรอบด้าน
กระทรวงพาณิชย์ไม่ได้หยุดอยู่เพียงการลดราคาปุ๋ย แต่ยังดำเนินมาตรการอื่นๆ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรแบบรอบด้าน ทั้งการเพิ่มตลาดส่งออก เช่น การส่งออกข้าวไปยังแอฟริกาใต้กว่า 400,000 ตัน และการลดต้นทุนการผลิตผ่านโครงการลดราคาปุ๋ยนี้ นายพิชัยยืนยันว่า “เราจะพยายามช่วยชาวนา ทั้งการเพิ่มตลาด และการลดต้นทุน เพื่อช่วยชาวนาให้ลดต้นทุนให้ได้มากที่สุด”
โครงการลดราคาปุ๋ยนี้ได้จัดเตรียมปุ๋ยที่ครอบคลุมความต้องการของการเพาะปลูกทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นนาข้าว พืชไร่ พืชสวน ไม้ผล และไม้ดอกไม้ประดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสูตรสำคัญที่เกษตรกรโดยเฉพาะชาวนาใช้เป็นประจำ เช่น สูตร 46-0-0, 0-0-60, 16-20-0, 15-15-15, 20-8-20 และ 25-7-14 ซึ่งในโครงการนี้ได้จัดเตรียมไว้กว่า 5.49 ล้านกระสอบ เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจากโครงการครั้งก่อน แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการขยายขอบเขตความช่วยเหลือให้ครอบคลุมเกษตรกรได้มากขึ้น
ที่มาของโครงการและแนวทางในอนาคต
นายพิชัยเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการประชุมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเพื่อไทย เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ซึ่งหนึ่งในแนวทางที่ได้มีการเสนอคือการลดราคาปุ๋ยเพื่อลดต้นทุนให้กับชาวนาและเกษตรกร ทางกระทรวงได้ดำเนินการทดลองโครงการในวงจำกัดก่อน และเมื่อได้รับผลตอบรับที่ดีจากเกษตรกร จึงได้ตัดสินใจขยายโครงการให้มีขนาดใหญ่ขึ้นในครั้งนี้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ยังได้ให้คำมั่นว่า หากความต้องการปุ๋ยราคาพิเศษมีมากกว่าที่เตรียมไว้ ทางกระทรวงพร้อมที่จะประสานงานกับพันธมิตรเพื่อจัดหาปุ๋ยเพิ่มเติม และหากราคาปุ๋ยในตลาดโลกมีการปรับตัวลดลง ทางกระทรวงจะพิจารณาให้มีการลดราคาปุ๋ยในโครงการลงอีก “ขอยืนยันว่ากระทรวงพาณิชย์ไม่นิ่งนอนใจ มีอะไรช่วยชาวนา ช่วยเกษตรกรได้ เราทำเต็มที่” นายพิชัยกล่าวย้ำ
ช่องทางการเข้าถึงโครงการสำหรับเกษตรกร
สำหรับเกษตรกรที่สนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถสั่งซื้อปุ๋ยราคาพิเศษได้หลายช่องทาง ทั้งผ่านกลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน รวมถึงสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. (ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร) ซึ่งหน่วยงานเหล่านี้จะทำหน้าที่รวบรวมยอดสั่งซื้อและประสานงานกับกรมส่งเสริมการเกษตรและกรมส่งเสริมสหกรณ์ เพื่อให้การกระจายปุ๋ยราคาพิเศษเข้าถึงมือเกษตรกรโดยตรงอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ เกษตรกรยังสามารถสั่งซื้อปุ๋ยได้โดยตรงจากโรงงานผู้ผลิตปุ๋ยที่เข้าร่วมโครงการอีกด้วย โดยกระทรวงพาณิชย์จะเผยแพร่ข้อมูลราคาจำหน่ายปุ๋ยในโครงการผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่ เว็บไซต์ www.dit.go.th สำนักงานพาณิชย์จังหวัด สำนักงานเกษตรจังหวัด และสำนักงานสหกรณ์จังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงการประชาสัมพันธ์ผ่านวิทยุชุมชนในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรได้รับทราบข้อมูลอย่างทั่วถึง
ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
ในตอนท้ายของการแถลงข่าว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้กล่าวขอบคุณความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย และสมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร ที่ได้ร่วมมือกับภาครัฐในการดำเนินโครงการนี้ ถือเป็นตัวอย่างที่ดีของการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการช่วยเหลือประชาชน
โครงการ “พาณิชย์ลดราคาปุ๋ยเพื่อเกษตรกร ปี 2568” นี้ สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาต้นทุนการผลิตที่สูงของเกษตรกรไทย ท่ามกลางสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำในตลาดโลก โดยหวังว่าการลดต้นทุนการผลิตจะช่วยให้เกษตรกรไทยสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ และเป็นการยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือและอยู่เคียงข้างเกษตรกรไทยเสมอ
นอกจากนี้ยังมีการวางแผนที่จะมีการติดตามและประเมินผลโครงการอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำข้อมูลมาพัฒนาและปรับปรุงโครงการให้ตอบสนองความต้องการของเกษตรกรได้อย่างแท้จริง หากมีข้อเสนอแนะหรือปัญหาใดๆ เกี่ยวกับโครงการ เกษตรกรสามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดใกล้บ้าน