ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลข่าวสารแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว การหลอกลวงออนไลน์ก็มีวิวัฒนาการตามไปด้วย โดยเฉพาะการหลอกลวงเกี่ยวกับเอกสารสำคัญทางราชการ กรณีล่าสุดที่กำลังเป็นที่จับตามองคือการปรากฏตัวของเพจภาษาจีนที่อ้างว่าสามารถออกใบขับขี่ไทยได้อย่างถูกกฎหมาย 100% โดยที่ผู้รับบริการไม่จำเป็นต้องเดินทางไปสอบที่กรมการขนส่งทางบกด้วยตนเอง ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน
ความเคลื่อนไหวจากกรมการขนส่งทางบก
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ได้ออกมาเปิดเผยถึงสถานการณ์ดังกล่าว โดยระบุว่าทางกรมฯ ได้มีการติดตามและป้องกันการซื้อขายใบขับขี่ผิดกฎหมายมาอย่างต่อเนื่อง หากพบเจอกรณีเช่นนี้ จะดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายทันที พร้อมกับเน้นย้ำเตือนประชาชนให้ระมัดระวังและไม่หลงเชื่อการซื้อขายใบขับขี่ปลอมผ่านช่องทางออนไลน์หรือคอลเซ็นเตอร์ต่างๆ
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางกรมการขนส่งทางบกอาจจำเป็นต้องทบทวนมาตรการเข้มงวดในการออกใบขับขี่ให้กับชาวต่างชาติ โดยกำหนดให้ชาวต่างชาติที่ประสงค์จะขอใบขับขี่ในประเทศไทยจะต้องมีทะเบียนที่อยู่ถาวร พร้อมหนังสือรับรองถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยจากสถานทูตหรือหน่วยงานราชการที่มีอายุไม่เกิน 1 ปี
คำชี้แจงจากรองอธิบดีและโฆษกกรมการขนส่งทางบก
นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีและโฆษกกรมการขนส่งทางบก ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก ชาวต่างชาติไม่สามารถทำใบอนุญาตขับรถบางประเภทได้ และย้ำเตือนประชาชนอย่างหนักแน่นว่าอย่าหลงเชื่อหรือทำธุรกรรมใดๆ กับเพจเหล่านี้โดยเด็ดขาด เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงที่จะสูญเสียทรัพย์สินและเอกสารส่วนบุคคล รวมถึงเสี่ยงที่จะได้รับใบขับขี่ปลอมซึ่งมีความผิดทางกฎหมาย
ความผิดทางกฎหมายและการดำเนินการ
การโพสต์เชิญชวนให้ทำใบขับขี่ในลักษณะดังกล่าวถือเป็นการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน กรมการขนส่งทางบกได้ดำเนินการแจ้งความกับเพจปลอมดังกล่าวต่อกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีแล้ว ในข้อหาความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ที่ผ่านมา กรมฯ ได้แจ้งความดำเนินคดีกับเพจปลอมที่มีพฤติกรรมหลอกลวงประชาชนในการรับทำใบขับขี่ไปแล้วกว่า 572 ราย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแพร่หลายของปัญหานี้
กระบวนการขอใบขับขี่ที่ถูกต้องตามกฎหมาย
นายเสกสมชี้แจงว่า การขอรับใบอนุญาตขับรถทุกชนิดมีมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ ผู้ที่ต้องการขอรับใบอนุญาตขับรถต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ อย่างครบถ้วน ได้แก่:
- การตรวจสอบเอกสาร
- การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
- การอบรม
- การทดสอบข้อเขียน
- การทดสอบขับรถ
ทั้งนี้ กระบวนการดังกล่าวสามารถดำเนินการได้ที่สำนักงานขนส่งหรือโรงเรียนสอนขับรถที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น และการถ่ายรูปเพื่อออกใบอนุญาตขับรถจะต้องดำเนินการที่สำนักงานขนส่งเท่านั้น ไม่สามารถดำเนินการผ่านช่องทางอื่นได้
ผลกระทบของการใช้ใบขับขี่ปลอม
การใช้ใบขับขี่ปลอมนอกจากจะเป็นความผิดตามกฎหมายแล้ว ยังก่อให้เกิดความเสี่ยงหลายประการ อาทิ:
- ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยบนท้องถนน เนื่องจากผู้ใช้ใบขับขี่ปลอมอาจไม่ได้ผ่านการอบรมและทดสอบที่เหมาะสม
- การขาดความคุ้มครองจากประกันภัย หากเกิดอุบัติเหตุและตรวจสอบพบว่าใช้ใบขับขี่ปลอม
- ความเสี่ยงในการถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย ซึ่งมีบทลงโทษรุนแรง
- ความเสียหายต่อระบบทะเบียนและฐานข้อมูลของภาครัฐ
การป้องกันตนเองจากมิจฉาชีพ
ประชาชนควรระมัดระวังและไม่หลงเชื่อข้อเสนอที่ดูเหมือนจะสะดวกเกินไป การขอรับใบขับขี่ที่ถูกต้องตามกฎหมายจำเป็นต้องผ่านกระบวนการทดสอบและการอบรมที่เหมาะสมเพื่อความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่นบนท้องถนน หากพบเห็นเพจหรือบัญชีที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย ขอให้รายงาน (report) บัญชีหรือเพจดังกล่าว หรือแจ้งเบาะแสมายังกรมการขนส่งทางบกได้โดยตรง หรือโทรสายด่วน 1584 ซึ่งให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
มาตรการป้องกันในอนาคต
กรมการขนส่งทางบกมีแผนที่จะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบเอกสารและกระบวนการออกใบขับขี่ โดยเฉพาะสำหรับชาวต่างชาติ เพื่อป้องกันการปลอมแปลงและการกระทำผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ยังมีการรณรงค์ให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับขั้นตอนการขอรับใบขับขี่ที่ถูกต้องและการระมัดระวังไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว การป้องกันและรู้เท่าทันภัยไซเบอร์เป็นสิ่งจำเป็น ประชาชนควรตระหนักว่าการได้มาซึ่งเอกสารราชการผ่านช่องทางที่ไม่ถูกต้องไม่เพียงแต่เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่ยังก่อให้เกิดความเสียหายต่อตนเองและสังคมในวงกว้าง การปฏิบัติตามกฎหมายและดำเนินการตามช่องทางที่ถูกต้องจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน